*** รอง ผอ.สำนักพุทธมาสนทนากับพุทธะอิสระ เจรจากัน ๒ ชั่วโมง ตอนที่ ๑ วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๙***

อ้างอิง
https://www.facebook.com/buddha.isara/?fref=photo

---

https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10154012987413446:0
-----
รอง ผอ.สำนักพุทธมาสนทนากับพุทธะอิสระ เจรจากัน ๒ ชั่วโมง ตอนที่ ๑
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๙

พุทธะอิสระ: วันนี้คุณมาหาฉันด้วยธุระอะไร

นายชยพล พงษ์สีดา: ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าวันนี้ผมมานมัสการเป็นการส่วนตัวนะครับ ไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน

พุทธะอิสระ: แล้วคุณมาด้วยธุระอะไรล่ะ

นายชยพล พงษ์สีดา: มาถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องสังฆราชครับ ว่าหลวงปู่มีความเห็นว่าอย่างไร

พุทธะอิสระ: ฉันคงยอมรับบุคคลที่มีมลทินต่อพระธรรมวินัยมาเป็นผู้ทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ไม่ได้

เขาจะเอาคุณธรรมอะไรมาอบรมสั่งสอนให้หมู่สงฆ์ปฏิบัติตามได้ เมื่อผู้ปกครองเป็นผู้ละเมิดพระธรรมวินัยเสียเอง แล้วใครเขาจะศรัทธา

จะมีก็แต่พวกมักมากอยากได้ลาภยศเท่านั้นแหละที่สนับสนุน

ชั่วชีวิตฉันไม่สนใจเรื่องลาภยศสรรเสริญ สนใจแต่หลักธรรมวินัย

คุณไม่รู้หรือว่า ว่าที่สังฆราชของคุณเป็นคนร่ำรวย ชมชอบสะสมทรัพย์สินเงินทอง

นายชยพล พงษ์สีดา: สมัยนี้มันเป็นธรรมดานี่ครับที่พระต้องมีเงินเอาไว้ใช้สอยตามความจำเป็น

พุทธะอิสระ: คุณพูดว่าตามความจำเป็น

ฉันถามคุณว่าแสวงหาครอบครองรถหรูโบราณที่ผิดกฎหมายนี่มันจำเป็นขนาดไหนหรือ มันทำให้บรรลุธรรมในชั้นไหนได้หรือ

นายชยพล พงษ์สีดา: คงเพื่อการศึกษามั้งครับ

พุทธะอิสระ: ฉันพึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าภิกษุในพระพุทธศาสนานี้เขาสอนดูรถกันแล้ว นอกจากดูรถแล้วยังดูบอล เชียร์บอล แล้วพระธรรมวินัยเอาไปไว้ไหน

ไหนคุณบอกฉันว่าคุณเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชา อย่าว่าแต่สะสมรถหรูเลย แค่ตู้บริจาคมีในวัดถ้ำแสงเพชร หลวงพ่อชาท่านยังไม่ยอมเลย

และคุณอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ท่านมาทำหน้าที่ รอง ผอ.สำนักพุทธ ที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลปกป้องพระธรรมวินัย กลับปล่อยให้พระละเมิดพระธรรมวินัยต่อหน้าต่อตา

นายชยพล พงษ์สีดา: แม้ผมจะเป็น รอง ผอ.สำนักพุทธ แต่ก็มีสถานะแค่ลูกศิษย์วัด จะทำอะไรได้ครับ

พุทธะอิสระ: นั่นสินะ พวกคุณเลยเอาแต่นั่งมองบรรดาอาเฮียอาเสี่ยห่มเหลืองเสวยสุข สะสมทรัพย์สินจากศรัทธาของชาวบ้านที่เขาบริจาคให้อย่างไม่รู้สึกละอาย

หากสำนักพุทธและมหาเถรสมาคมมองเห็นความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองยศศักดิ์ของภิกษุเป็นเรื่องธรรมดา พระพุทธศาสนานี้คงไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ

นายชยพล พงษ์สีดา: เรื่องความมั่งคั่งร่ำรวยของพระภิกษุจะไปโทษพระฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะครับ เพราะทรัพย์ทั้งหมดชาวบ้านเขาให้ด้วยศรัทธาทั้งนั้น

พุทธะอิสระ: คุณคิดว่าในครั้งพุทธกาลไม่มีคนถวายทรัพย์สินเงินทองให้แก่พระภิกษุในพุทธศาสนาเลยหรือ

นายชยพล พงษ์สีดา: มีครับ

พุทธะอิสระ: ใช่มี แต่ไม่มีภิกษุรูปใดตะกละสะสม เพราะพวกเขาไม่ได้บวชเพื่อเข้ามาสะสมทรัพย์

สมัยครั้งพุทธกาล อนาถบิณฑิกเศรษฐีและจิตตคหบดีเศรษฐี ใช้ทองคำปูพื้นพระวิหารที่ประทับของพระพุทธเจ้า

แล้วสมัยนี้มีใครใช้ทองคำปูพื้นถวายพระบ้าง...

เป็นคำสนทนาที่ไม่ได้ถูกอัดคลิป เพราะกล้องถ่ายคลิปมาติดตั้งไม่ทัน

ทนๆ อ่านกันหน่อยนะจ๊ะ เพราะยังมีอีกหลายตอน

พุทธะอิสระ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่